ประวัติความเป็นมา

- ศิลป์สยามศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมเกาะเกร็ดวัดเสาธงทอง เดิมใช้ชื่อ "บ้านศิลป์สยาม" เป็นบ้านในหมู่ 1 แต่ได้ย้ายมาอยู่หมู่บริเวณวัดเสาธงทองมีอาคารเรียนที่ปล่อยทิ้งร้างไว้ประมาณ 120 ปี เดิมเป็นอาคารเรียนอนุบาลชื่อ "โรงเรียนวัดเสาธงทอง" เป็นที่แห่งแรกของอำเภอปากเกร็ด แต่ความนิยมของชุมชนในการส่งลูกหลานมาเรียนลดลงเรื่อย ๆ จึงมีการสร้างโรงเรียนในอำเภอปากเกร็ดแล้วโยกย้ายครูผู้สอนมาสอนสถานที่ใหม่จึงทิ้งร้างมาจนถึงทุกวันนี้

- ครูฑามก์ สิปปสยามโยกย้ายจากหมู่ 1 มาขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดเสาธงทอง เพื่อดูแลและปรับปรุงอาคารเรียนให้ใช้งานได้ด้วยการนำอาคารมาฟื้นคืนชีพในการใช้อาคารเรียนให้เป็น “ศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมเกาะเกร็ด” ด้วยแนวคิดให้เป็นจุดศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้งานช่างไทย ที่ให้นักท่องเที่ยวและขุมชนเยาวชนบนเกาะเกร็ดได้เข้ามาศึกษาต่อยอดให้เป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน และส่งเสริมเยาวชนนิยมไทยโดยนำงานศิลป์แผ่นดินมาต่อยอด สืบสาน และอนุรักษ์ ด้วยการเล่าเรื่อง "รามเกียรติ์" โดยการสร้างสรรค์ "หัวโขน" ที่เป็นส่วนหนึ่งของ "โขน" มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติที่ทางยูเนสโกจดบันทึกไว้เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2561 โดยใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Khon, masked dance drama in Thailand” นั่นเอง สิ่งที่เกิดขึ้นทุกภาคไทยได้สร้างสรรค์งาน "โขน" เพื่อนำเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของชาติมาเผยแพร่ สืบสาน และอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้นำไปต่อยอดสร้างรายได้อย่างยั่งยืนต่อไป ด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นและตั้งใจในการสืบสานงานศิลป์แผ่นดิน ครูฑามก์ สิปปสยามจึงส่งเสริมเยาวชนด้วยการริเริ่ม สร้างสรรค์ชิ้นงานเพียงลำพังและก้าวเดินด้วยการสร้างเอกลักษณ์และอัตลักษณตัวตนนที่เกิดขึ้นได้จากศูนย์ในการนำงานศิลป์แผ่นดินมาสร้างสรรค์บน “เกาะเกร็ด” ด้วยความตั้งใจที่นำงานศิลปะไทย เข้ามาสร้างกิจกรรมเพื่อให้เกิดพหุวัฒนธรรม ในพื้นที่ที่มีชุมชนไทยพุทธ คนไทยเชื้อสายมอญ และคนไทยเชื้อสายมุสลิม ด้วยการเป็น "ปราชญ์ท้องถิ่น"

- ด้วยการพัฒนาชุมชนคุณธรรมเกาะเกร็ดจนเป็นที่ยอมรับ ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนนทบุรีจึง ยกย่องให้เป็นบุคคลที่ควรได้รับรางวัล "วัฒนคุณาธร" เมื่อปี 2562 เป็นรางวัลเกียรติยศของกระทรวงวัฒนธรรมในระดับประเทศ ที่มอบให้เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติบุคคลและองค์กรที่ดำเนินงานอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ และมีผลงานโดดเด่นในการปฏิบัติงานส่งเสริมงานด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ด้วยความเสียสละ วิริยะ อุตสาหะ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ร่วมงานและสาธารณชน ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติ การมุ่งมั่นสร้างสรรค์ และส่งเสริมเยาวชน ที่ ครูฑามก์ สิปปสยาม ได้เริ่มสร้างสัมพันธ์ด้วยการทำ MOU ตามโรงเรียนในเกาะเกร็ด และโรงเรียนพื้นที่ในปากเกร็ด และตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อให้เป็นจุดศูนย์กลางการเรียนรู้งานช่างศิลปะไทยให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้นต่อไป